เมื่อมาตามรอยพระศาสดา เดินทางบนเส้นทางแห่งศรัทธามาเเสวงบุญกราบสี่สังเวชนียสถาน สถานที่สังเวชสี่เเห่งของพระพุทธองค์แล้วนั้น
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การมาล่องเรือชมความงามเเม่น้ำคงคา และวิถีชีวิตชาวอินเดีย ที่มีมานานกว่า 4,000 ปี
เมืองพาราณสี คืออีกเมืองที่หากมาอินเดียแล้ว ไม่ได้มาเยือน ถือว่ามาไม่ถึงอินเดีย
ครั้งหนึ่งอังกฤษเคยพยายามที่จะเปลี่ยนชื่อพาราณสี เป็นเมืองเบนารัส(Banaras) แต่ไม่นานชาวเมืองก็กลับมาใช้ชื่อเดิมคือ พาราณสี
ว่ากันว่า ที่นี่คือเมืองที่คงความเป็นอินเดียไว้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเชื่อ ประเพณี วิถีชีวิต
ที่สำคัญที่สุด คือ ศรัทธาในศาสนาและปรัชญาของตนอย่างที่ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้
เช้ามืดท่ามกลางอากาศหนาว คณะธรรมดีทัวร์ ได้มาล่องเรือชมความงามริมฝั่งเเม่น้ำคงคา
เราเดินมาลงเรือที่ท่าราชฆาต ซึ่งเป็นท่าน้ำใหญ่ 1 ใน 5 ท่า ในจำนวนทั้งหมด 84 ท่าริมฝั่งแม่น้ำคงคา
สองฟากฝั่งของแม่น้ำคงคา ถูกเปรียบเปรยให้เป็นนรกและสวรรค์
ฝั่งตะวันตก คือสวรรค์ เป็นฝั่งที่เต็มไปด้วยผู้คน อาคารบ้านเรือน ส่วนอีกฝั่งนั้นที่เป็นสันทราย ดูแห้งแล้งร้างไร้ผู้คน มีแค่เพิงเล็กๆของเหล่าจัณฑาลมองเห็นอยู่ลิบๆ เชื่อกันว่าเป็นฝั่งนรก
พระอาทิตย์เริ่มฉายแสงมาทักทาย ทำให้เรามองเห็นชีวิตผู้คนริมฝั่งแม่น้ำคงคาได้ชัดเจนขึ้น
มองเห็นกองไฟที่ใช้สำหรับเผาร่างไร้วิญญาณที่ท่ามณีกรรณิกาฆาตลุกโชน ย่อยสลายเป็นเพียงธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ
ให้เราได้เรียนรู้ว่า เมื่อถึงจุดหนึ่ง เราก็กลับคืนสู่ธรรมชาติ
ชาวฮินดูไม่ประหวั่นพรั่นพรึงกับความตายมากมายนัก เพราะเชื่อว่า ความตายก็คือการกลับสู่อ้อมกอดของเทพเทวะ ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น และการเผาก็คือการเผาความชั่วร้าย เผากิเลสทั้งปวงออกเสียก่อนที่จะไปพบพระผู้เป็นเจ้า
มีคนเพียง 5 ประเภทเท่านั้นที่จะไม่ถูกเผา แต่จะถูกผูกกับหินถ่วงทิ้งน้ำ ได้แก่ เด็กแรกเกิด สาวพรหมจรรย์ นักบวช คนถูกงูกัด และคนถูกฟ้าผ่า
โดยชาวฮินดูเชื่อว่าคนเหล่านี้ได้ถูกชำระล้างบาปแล้วไม่จำเป็นต้องใช้ไฟเพื่อเผาไหม้ร่างอีก
อีกอย่างหนึ่งที่เราได้เห็นระหว่างล่องเรือในแม่น้ำคงคาก็คือ การบูชาสุริยเทพหรือพระอาทิตย์
ที่ชาวฮินดูเชื่อว่า จะสามารถทำลายอำนาจความชั่วร้ายที่อยู่ในจิตใจได้ การไหว้พระอาทิตย์จะทำให้บุคคลนั้นเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานและประสบความสำเร็จในชีวิต
ชาวฮินดูจึงนิยมมาอาบน้ำในแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ในช่วงที่พระอาทิตย์ขึ้น และขอพรต่อสุริยเทพในทันทีที่แสงแรกของดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้น
แม่น้ำคงคา สะท้อนแนวคิดทางพุทธศาสนาได้ว่า มนุษย์เราเกี่ยวข้องกับสายน้ำตั้งแต่แรกเกิดจนวาระสุดท้าย
มีคำโบราณว่า วิถีชีวิตของคนต้องผ่าน 3 น้ำคือ
อาบน้ำร้อน หย่อนน้ำสรง หลั่งน้ำตา
และน้ำยังมีความหมายแฝงถึง ความอดอน สามัคคี และยุติธรรม
คนอินเดีย ยังเชื่อว่าการตายไม่ใช่จุดสิ้นสุดแต่เป็นการเริ่มต้นภพภูมิใหม่ ไปอยู่กับพระเจ้า การเอาศพไปเผาและลอยเถ้ากระดูกลงสู่แม่น้ำเป็นการเดินทางสู่สรวงสวรรค์ จึงต้องมีการเตรียมใจ เตรียมกายเสียก่อนตาย
เเละเราชาวพุทธก็เชื่อว่า เราสามารถเลือกเกิดได้ เลือกไปเกิดในภพภูมิใดก็ได้ เพียงเเค่ตอนมีชีวิตอยู่ หมั่นสร้างทานบารมี ทำบุญกุศล ภาวนา เตรียมจิต เตรียมใจไม่อยู่ในความประมาท ทำกุศลให้ถึงพร้อมทั้งกาย วาจาใจ
เหมือนกับคณะธรรมดีทัวร์ ที่มาล่องเรือกลางเเม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ทั้งที เราก็ยังคงปฏิบัติบูชา สวดมนต์ ภาวนา ตั้งจิตอธิษฐาน ปล่อยปลา
สร้างบุญกุศล ถวายเป็นบารมีธรรม แด่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามาดา คุณครูบาอาจารย์ บูรพกษัตริย์แห่งสยาม และสรรพสัตว์ทั้งหลาย
เพื่อให้ทุกท่านที่ยังเวียนว่ายตายเกิด ได้มีหนทางเกิดใหม่ไปสู่ภพภูมิที่ดีขึ้น หรือดีที่สุด คือ การไม่เกิดอีกเลย
**ครั้งแรก! เยือนมหานครสีชมพู เมืองชัยปุระ
ชมความงามของสถาปัตยกรรมและป้อมปราการ **
10 วันแห่งการบำเพ็ญบารมี #ตามรอยบาทพระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลก
วันที่ 20 – 29 ธันวาคม 2562 (10 วัน 8 คืน)
#TheBestofIndia #8
*พุทธคยา *ราชคฤห์ *นาลันทา *พาราณสี *กุสินารา *สาวัตถี *ลุมพินี
กราบสักการะสถานที่ ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และปรินิพพาน
#ทัวร์อินเดีย# เที่ยวอินเดีย #ทัวร์อินเดีย VIP #เที่ยวอินเดีย VIP#แสวงบุญอินเดีย
#ทัวร์อินเดียสังเวชนียสถาน #ทัวร์แสวงบุญอินเดีย
#ทัวร์อินเดียมีระดับ #ทริปอินเดีย #ทัวร์อินเดียเนปาล
#ทัวร์ไหว้พระอินเดีย