เอฟาซัสเป็นหนึ่งในสิบสองเมืองของสหพันธ์ไอโอเนีย (Ionian League) ในสมัยกรีกคลาสสิค
ในสมัยโรมันเอฟาซัสเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นสองของจักรวรรดิโรมัน
รองจากโรมที่เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิอยู่เป็นเวลานาน
เอฟาซัสมีประชากรกว่า 250,000 คนในศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช
ซึ่งเท่ากับทำให้เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นสองของโลกในยุคนั้นด้วย
ชื่อเสียงของเมืองมาจากเทวสถานอาร์ทีมิส (สร้างเสร็จราว 550 ปีก่อนคริสต์ศักราช)
ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ตัวเทวสถานถูกทำลายในปี ค.ศ. 401
โดยฝูงชนที่นำโดยนักบุญจอห์น คริสซอสตอมจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1
ทรงสร้างเมืองขึ้นมาใหม่และทรงสร้างโรงอาบน้ำสาธารณะ
ต่อมาในปี ค.ศ. 614 บางส่วนของตัวเมืองก็มาถูกทำลายไปโดยแผ่นดินไหว
เมื่อความสำคัญทางการค้าขายของเอฟาซัสลดถอยลง อ่าวก็ตื้นเขินขึ้น
ในปัจจุบันศูนย์โบราณคดีของเอฟาซัสตั้งอยู่ราว 3 กิโลเมตร
ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของตัวเมืองแซลจุค
ซากเมืองโบราณของเอฟาซัสเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอันมาก
Ephesus เป็นเมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีที่สุดเมืองหนึ่ง
เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (IONIA) จากกรีก ซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมืองขึ้นที่นี่เมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อน คริสตกาล
ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช
ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนา “เอฟฟิซุส” ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน
ในเมืองจะพบถนนหินอ่อนผ่านใจกลางเมืองเก่า
ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว
ไม่ว่าจะเป็นโรงละครกลางแจ้งที่สามารถจุผู้ชมได้กว่า 30,000 คน
ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (ROMAN BATH)
ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้
ห้องสมุดโบราณที่มีวิธีการเก็บรักษาหนังสือไว้ได้เป็นอย่างดี
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นศิลปะแบบเฮเลนนิสติคที่มีความอ่อนหวานและฝีมือประณีต